อุทยานแห่งชาติ โยเซมิตีตั้งอยู่ใน สหรัฐอเมริกา ได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติ โดยการผลักดันของนักอนุรักษ์ธรรมชาติคนสำคัญคือ จอห์น มุยร์ หุบเขาโยเซมิตี มีความกว้าง 1.6 กิโลเมตร ยาว 11 กิโลเมตร ถูกตัดผ่านโดยธารน้ำแข็ง ในอดีตกาล จนกลายเป็นหุบเขาที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในอเมริกา ฮาล์ฟโดมและเอลแคปปิตอล ภูเขาหินขนาดใหญ่ที่มีหน้าผามหึมา

ตั้งฉากและสูงลิบคือสัญลักษณ์ของอุทยานฯ นี้ สำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไป แค่ขับรถเที่ยวชมก็ควรใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 2 วันโดยเฉพาะที่หุบเขาโยเซมิตีก็ต้องใช้เวลาแล้ว 1 วัน แม้จะมีระยะทางเพียง 19 กิโลเมตร แต่ก็มีจุดที่ควรแวะดูมากมาย ทุกฤดูร้อนมีนักท่องเที่ยวมาเยือนโยเซมิตีเป็นจำนวนมาก จนทำให้รถติดและที่จอดรถไม่เพียงพอ ก่อให้เกิดมลพิษมากมาย ทางอุทยานฯ จึงจำเป็นต้องจัดรถพลังงานไฟฟ้าเพื่อลดมลพิษ บริการนักท่องเที่ยวตั้งแต่ก่อนพระอาทิตย์ขึ้นไปจนกระทั่งหลังตะวันตกดิน และห้ามนักท่องเที่ยวขับรถเองตามเส้นทางต่างๆ ในหุบเขา หรือถ้าหากจะเช่าจักรยานก็มีเส้นทางเล็กๆ ขนานคู่ไปกับถนนสายหลัก พบว่าเป็นทางเลือกที่ดีอีกทางหนึ่งคือ แวะที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยววัลเล่ย์ ก่อนเป็นแห่งแรกเข้าชมการบรรยายประกอบการฉายสไลด์สั้นๆ เพื่อเข้าใจประวัติและความเป็นมาของอุทยานฯ แห่งนี้ จากนั้นขึ้นรถต่อไปยังน้ำตกโยเซมิตี ซึ่งเป็นน้ำตกสวยเห็นโดดเด่นแต่ไกล มีเส้นทางเดินเท่าระยะทางเพียง 400 เมตร เข้าไปถึงตัวน้ำตกชั้นล่าง หากต้องการขึ้นไปถึงชั้นบนต้องเดินไกลเข้าไปอีกกว่า 4 กิโลเมตร กลับมารอรถบัสเที่ยวถัดไปซึ่งใช้เวลาไม่นานไปยังเอล แคปปิตอลอีกสัญลักษณ์หนึ่งของที่นี่ มันเป็นภูเขาหินขนาดใหญ่ สูงตั้งฉากขึ้นไปถึง 900 เมตร หลังจากนั้นจะผ่านจุดที่น่าสนใจอีกมากมาย รวมทั้งเซนติเนลร็อกและกลาเซียร์พอยต์ นับเป็นเทือกเขาหินแกรนิตอีกจุดหนึ่งที่ถูกธารน้ำแข็งกัดกร่อนในอดีตกาล เส้นทางถัดมาถึงคราที่ต้องขับรถเอง ระยะทาง 84 กิโลเมตร อาจจะใช้เวลาครึ่งวัน ถึง 1 วันเต็ม จากหุบเขาโยเซมิตีใช้เส้นทางหมายเลข 41 หรืออีกชื่อหนึ่งคือถนนโววานา ไปยังอุโมงค์โววานา จุดแรกที่ต้องแวะคือจุดชมวิวทันเนลวิว ที่ถูกยกย่องให้เป็น the most photographed vista on earth นับเป็นจุดชมวิวแบบพาโนรามาที่ยิ่งใหญ่ มองเห็นเทือกเขาหินปูนทั้งหมดของโยเซมิตี รวมทั้งน้ำตกไบรดัลเวล ที่มีความสูง 186 เมตร (หากมาใช้ช่วงบ่ายจะเห็นสายรุ้งบริเวณน้ำตก) ถัดมาอีก 11 กิโลเมตร ให้เลี้ยวซ้ายไปใช้เส้นทางกลาเซียร์พอยด์สองข้างทางเป็นป่าสน ไปสุดที่ลานจอดรถ จากนั้นเดินไปเพียง 250 เมตร มีจุดชมวิวหลายแห่งบนเอกเขาซึ่งมีความสูง 964 เมตร โดยเฉพาะฮาล์ฟโดมและน้ำตกอีกหลายแห่ง ย้อนกลับมายังเส้นทางหมายเลข 41 ขับลงใต้อีก 21 กิโลเมตร มายังวาโวนา ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรม ร้านค้า และสนามกอล์ฟ แวะที่ศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์โยเซมิตี ขับต่อไปยังทิศใต้ เลยประตูทางเข้าด้านทิศใต้เลี้ยวซ้ายเข้าไปที่สวนมาริโพซา ที่นี่มีต้นไม้ยักษ์ที่เรียกว่าเซควอญา กว่า 200 ต้น ลองมองหาต้นที่ชื่อ Grizzly Giiant อายุประมาณ 2,700 ปี นับว่าเป็นต้นไม้ที่มีอายุมากที่สุดต้นหนึ่ง ขับรถต่อไปเรื่อยๆ สู่อุโมงค์ต้นไม้วาโวนา ขับรถลอดใต้อุโมงค์ต้นไม้ยักษ์ที่ล้มลงในปี พ.ศ. 2424 (หากแต่ยังมีชีวิต) นับเป็นอีกจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวจะต้องจอดรถและถ่ายรูปไว้ที่เป็นที่ระลึก การเดินทาง อุทยานแห่งชาติโยเซมิตีตั้งอยู่ในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย การเดินทางจากประเทศไทย ต้องขึ้นเครื่องบินไปลงที่เมืองซานฟรานซิสโก แล้วขับรถเข้าอุทยานฯ ทางทิศตะวันตก ฤดูกาล สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่อย่างไรก็ตามควรหลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงวันหยุด ควรจองที่พักล่วงหน้าหากเดินทางในช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคม จากเมืองเฟรสโนใช้เส้นทาง Calf. Hwy. 41 เข้าทางด้านใต้ของอุทยานฯ