เมืองที่มีเอกลักษณ์มากที่สุดเป็นเมืองอยู่ในเทศมณฑลทรุมส์ ประเทศนอร์เวย์เป็นเมืองท่า บนเกาะขนาดเล็กระหว่างเกาะควาเลอยากับผืนแผ่นดินใหญ่ มีประชากรมากเป็นอันดับ 7 ของนอร์เวย์เป็นเมืองที่มีบ้านเก่าทำจากไม้จำนวนมากที่สุดในนอร์เวย์เหนือ ทรอมโซเมืองหลวงแห่งการล่าแสงเหนือ ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกมาที่นี่กันเพื่อมารอชมแสงเหนืออันสวยงาม

และยังเป็นเมืองแห่งมหาวิทยาลัยที่อยู่เหนือสุดของโลกซึ่งโดดเด่นในเรื่องงานวิจัยแสงเหนือ ดาราศาสตร์ ที่นี่ถือว่าเป็นเมืองที่เรียกว่าครึกครื้นที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับบรรดาเมืองแห่งการล่าแสงเหนือแห่งอื่นๆของนอร์เวย์ เราสามารถใช้บริการของสายการบินในประเทศ นั่งมาลงที่สนามบินทรูมเซอร์ หรือจะเลือกการนั่งรถโดยสารระยะไกลจากเมืองอื่นๆ ในประเทศข้างเคียงทั้งจาก ฟินเเลนด์ สวีเดน หรือมีแม้กระทั่งเรือเฟอร์รี่มาจอดเทียบท่าที่เมืองนี้อีก สะดวกมากๆ เมืองทรูมเซอร์ เป็นเมืองที่เที่ยวง่าย นักท่องเที่ยวหลายคนเลือกเช่ารถแล้วขับเที่ยวกันเอง ดูทางด้วย GPS เสียค่าจอดรถบางจุดโดยจ่ายที่เครื่องอัตโนมัติ ที่เมืองทรูมเซอร์ก็มีเรือไว้คอยบริการพาไปทัวร์ชมปลาวาฬหลังค่อมในท้องทะเลอันงดงามชนิดที่ว่าคุณสามารถใช้มือแตะหลังมันได้อีกด้วย แต่นอกจากปลาวาฬแล้วก็มีแกะให้เราชมเพลินๆด้วยนะ เมืองที่ล้อมรอบด้วยภูเขาที่งดงามราวภาพวาด ที่ Norwegian Sea มีเรือแล่นไปมาตลอดเวลา หากมีเวลาเยอะ แนะนำให้ใช้เวลาที่นี่สัก 2-3 วันเลย Fjellheisen Viewpoint เราสามารถขึ้นเคเบิลคาร์ขึ้นเขาไปจุดชมวิวของเมืองเป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง หากอากาศดี เราจะสามารถเห็นเมืองทรูมเซอร์ได้ทั้งเมืองแบบพาโนราม่าเลยโดยใช้เวลาในการนั่งเคเบิ้ลคาร์เพียง 4-5 นาทีก็ถึงยอดเขาแล้ว สำหรับค่าใช้จ่ายค่าขึ้น cable car 230 NOK ไปกลับ + ภาษีอีก 8% จุดที่ให้รอมีฟรีไวไฟ ด้านบนมีร้านค้าคาเฟ่จำหน่ายขนม กาแฟ ไอศครีม สามารถใช้เวลาช้าๆ ในการชมวิว วิวแม่น้ำ บ้านเมืองที่มองจากด้านบนของภูเขา Storsteinen ที่เรานั่งเคเบิ้ลคาร์ขึ้นมา สวยน่าตะลึงมาก Tromso Public Library ภายในเมืองนอกจากจะมีพิพิธภัณฑ์มากมาย แกลอรี่ศิลปะก็เยอะ ดอกไม้สวย บ้านเมืองร้านค้าน่ารักสดใส ยังมีห้องสมุดดีๆให้เข้าไปใช้บริการด้วยนะ และมีหนังสือภาษาอังกฤษด้วย